ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรื่องหลอนๆที่เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี...ตำนานผ้าแดงและเขาสมิง!!


ก่อนอื่นอยากจะบอกก่อนน้ะครับว่าถ้าอ่านยากหรือไม่ถูกใจก็ขออภัยจริงๆครับ...ผมพอทราบบ้างน้ะครับว่า มีรถส่งคนขึ้นไปข้างบนเนี่ยตกเขากันหลายคันเมื่อนับรวมกันหลายๆปีแต่ไม่ค่อยมีคนรู้กันขนาดคนในตัวเมืองจันเองยังไม่ค่อยรู้กันเลยแต่ผมมีเพื่อนเป็นคนพื้นที่มันมาบอกผมประกอบกับเพื่อนอีกคนมันเป็นลูกจนท.ป่าไม้ที่นั่น มันก็เคยพูดให้ผมฟังอยู่ว่ามีรถตกเขาด้วยผมก็เชื่อ50/50เพราะคนพื้นที่พูดให้ผมฟังถึงสองคน

จนวันนึงมันชวนผมเดินขึ้นเดินจากเขื่อนพลวงไปถึงยอดเขาไม่รู้กี่กิโลครับขาขึ้นไม่ได้นั่งรถเลยเดินอย่างเดียวขึ้นตอน3ทุ่มกว่าๆถึงยอดตี1ระหว่างทางเดินขึ้นมีเพื่อนผมคนนึงสมมติว่าชื่อAมันเป็นคนเห็นพวกสิ่งลี้ลับบ่อยมากๆมันเห็นชายคนนึงครับใส่ชุดสีเทาๆยู่ตรกอีกฟากนึงของเขื่อนมันก็ไม่ได้คิดอะไร(พวกผมยืนอยู่ตรงศาลครับคนเคยไปหรือคนแถวนั้นจะรู้) ก่อนขึ้นผมให้ผ้ายันต์ท่านพ่อเขียนกับเพื่อนผมไว้ ไอ้Aนี่ตอนขึ้นทุลักทุเลครับสะดุดบ้างหนามทิ่มบ้างโดนทิ่มจนปวดมือชาผมก็ต้องเป่าถอนพิษออกให้มันถึงหายแต่ไม่ได้เอาหนามออก ตอนเดินขึ้นแรกๆก็ไม่เจออะไรสักพักหนึ่งผมมองเห็นรอยเท้าอะไรก็ไม่รู้ไม่ใช่รอยเท้าของคนมีสี่นิ้วคล้ายๆสัตว์ตระกูลแมวและรอยเท้ามันยังใหม่ๆอยู่ไม่น่าใช่รอยของเสือโคร่งเพราะมีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือผมได้ประมาณครึ่งฝ่ามือ 

รอยมันยังใหม่อยู่น้ะครับเป็นรอยบนดินเปียกๆเลยตอนนั้นขึ้นไปก็มีลื่นกันบ้างพยุงกันไป ผมก็เลยคิดดูว่าเขาเปิดเขาปิดป่านิ่แล้วจะมีสัตว์เข้ามาได้ยังไง??ซึ่งคำถามที่ผมเคยถามเพื่อนที่เป็นคนพื้นที่ก่อนขึ้นเขาว่าเสือสมิงที่คิชกูฎเป้นเสือที่กินคนเข้าไปมากหรือเป็นคนเรียนวิชาสมิงมันตอบกลับว่าเป็นคนที่เรียนวิชาสมิงแล้วมันผิดคำครูแล้วก็ถามต่อว่าเขตป่าที่สมิงอยู่มันอยู่ตรงไหน (เป็นเขตป่าอาถรรพ์ของคิชกูฎ)มันบอกว่าอยู่หลังจากเขาไปห้ากิโล ผมนึกถึงคำถามพวกนี้ที่ผมเคยถามมันไปทันทีแล้วรีบเร่งให้เพื่อนทุกคนขึ้นไปมีทั้งหมดห้าคนน้ะครับเดินต่อไปอีกสองวาเจอรอยเท้าของคนที่ไม่ใส่รองเท้าปะปนอยู่กับรอยเท้าของเสือตอนนั้นผมมั่นใจว่ามันเป็นเสือแน่ๆแต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันขึ้นมายังไงแต่มันไม่ใช่เสือธรรมดาแน่นอน ผมก็เลยหยุดดูส่องไฟแล้วส่องไปรอบๆก็ไม่เห็นอะไร ผมก็เร่งให้ขึ้นไปกันต่อไอ้เพื่อนผมที่ชื่อAนี่แหละครับที่ให้ผ้ายันต์มันไว้เนี่ย

มันหันไปเห็นชายที่ผมบอกไปข้างต้นที่ใส่ชุดสีเทา วิ่งขึ้นตามมันมาเร็วมากๆมันบอกว่าหน้าตาแกเหมือนฟกช้ำตาแดงก่ำไม่ใส่รองเท้าวิ่งบ้างกระโดดบ้างตามมันมาอย่างเร็ว มันรีบวิ่งแทรกผมเข้าไปผมก็ไม่ได้สนใจอะไรให้มันไปก่อนจังหวะนั้นผมก็ต้องไปอยู่หลังแทนมัน(ตอนแรกมันอยู่คนสุดท้ายผมเดินคนที่สี่)
พอมันขึ้นไปได้สักพักผมรู้สึกว่ามีอะไรมาเบียดผมขึ้นไปจากทางด้านขวาดีที่ไม่ตกเขาเบียดไม่แรงมากเท่าไรแต่เกือบเสียหลักผมหยุดสักพักแล้วก็ดูว่ากระเป๋ามันเกี่ยวอะไรรึเปล่าจริงๆมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยครับ แต่พยามข่มใจตัวเองไว้ว่าอย่าไปกลัวมันก็แค่เกี่ยวโดนอะไรสักอย่าง(ผมก็ไม่รู้หรอกเพิ่งมาประติดประเรื่องตอนเช้าที่ลงจากหลังจากที่เพื่อนผมมันเล่าให้ฟังแต่ใจก็หวั่นๆเหมือนกัน)ตอนนั้นนึกถึงเสือหลวงพ่อคงกับชายผ้าถุงแม่ให้ช่วยปกป้องคุ้มครองด้วย

จังหวะนั้นผมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีก็เลยรีบๆเร่งเดินขึ้นไปจนเจอคนอีกกลุ่มนึงก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยเดินต่อไปอีกประมาณสิบวาได้จู่ๆไอ้Aมันก็ลื่นลงดื้อๆซะงั้นผมก็เลยเดินเข้าไปพยุงมันขึ้นมาเอาน้ำให้มันกินแล้วก็มีพี่คนนึงเอายาดมมาให้ก็ขอบคุณไปตามประเพณี มันบอกว่าตอนทีมันลื่นมันไม่ได้ลื่นเองหรอกคือตอนแรกมันสะดุดหินแล้วมันจะล้มมันก็หาอะไรมาจับไว้ได้แต่กลับรู้สึกว่ามีคนมาดึงตรงบริเวณหน้าแข้งให้มันลื่นล้มลงไปนอน สภาพที่ผมเห็นคือขาข้างนึงพับอีกข้างนึงมันเหยีดอยู่รองเท้าหลุดออกข้างนึงที่มันใส่ไปเป็นรองเท้าผ้าของadidasน้ะครับไม่ได้ถามรุ่นแต่มันไม่ได้ใส่อีแตะไปแน่นอนเพราะเดินขึ้นเขาผมก็ไม่ได้สงสัยอะไรขึ้นถึงยอดก็ลงมาด้วยดีแต่ขาลงผมนั่งรถลงครับไปตรงตลาดหาอะไรกิน ไม่เดินแล้วล้ามากๆผมไม่ได้กินข้าวเย็นก่อนขึ้นด้วยแต่คนอื่นมันกินกันอิ่มแล้ว พอลงมามันก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังแล้วก็เอาเรื่องมาประติดประต่อกันก็พอเข้าใจได้นิดหน่อย 

ไอ้Aมันบอกอีกว่าเดินขึ้นที่ต้องเดินทางรถวิ่งอ่ะมีอยู่ช่วงนึงที่ภาพมันเบลอไปหมดมองไม่เห็นใครเลยแล้วไม่ได้ยินอะไรเลยด้วยตอนนั้นมันเกือบโดนรถขึ้นเขาชนแต่มันได้สติเพราะผมดึงมันไว้ผมเลยถามมันว่ารู้จักเรื่องตัวตายตัวแทนมั้ยมันบอกว่ารู้แล้วผมก็บอกว่าเขาอาจจะเอาเมิงมาเป็นผีเฝ้าป่าแทนก็ได้เขาจะได้ไปเกิด ก่อนกลับผมก็บอกมันว่ายังดีที่บารมีของท่านพ่อเขียนคุ้มหัวเมิงไว้ไม่งั้นได้อยู่เฝ้าป่าแทนไอ้คนนั้นแน่ แล้วก็บอกให้มันไปทำบุญซะ 

ที่มา : https://pantip.com/topic/36159241

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ