ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เบอร์13 ซาลอนหลอน!!


เรื่องเล่าจากน้องเพลส ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่สาว คือพี่เน โดยน้องเพลสเป็นคนติดต่อหาห้องเช่าให้กับพี่เน ในจ.สมุทรปราการ เพราะพี่เนมีปัญหากับแฟนและยังไม่อยากกลับไปพักที่บ้านของแม่ซึ่งอยู่ในจ.เดียวกัน

ห้องเช่าที่ได้เป็นห้องพักชั้นเดียว เป็นแนวยาวทั้งหมด17ห้อง ส่วนใหญ่จะเปิดทำธุรกิจกัน ห้องที่พี่เนได้พักคือห้องเบอร์12 ห้องข้างๆคือห้องเบอร์11 เปิดเป็นร้านซ่อมเครื่องเสียง ส่วนเบอร์13เปิดเป็นร้านทำผม ร้านถัดๆไปก็เป็นร้านค้าของชำ หรือทำงานฝีมือ พี่เนเริ่มสนิทกับคนในห้องเช่า โดยเฉพาะร้านทำผมซึ่งอยู่ติดกัน ด้านหลังห้องเช่ากั้นด้วยกำแพงสูงเลยศีรษะะเล็กน้อย พี่เนมักพูดคุยกับร้านทำผมผ่านกำแพงเวลาที่อยู่ด้านหลังพร้อมกันอย่างเช่นเวลาล้างจาน และเวลาที่แฟนพี่ร้านทำผมกลับมาแบบเมาๆ ก็มักจะได้ยินเสียงทะเลากัน แทบทุกวัน

ผ่านไปประมาณ3อาทิตย์ พี่เนได้เข้าไปทำผมในร้าน มีการพูดคุยกันตามปกติ แฟนของพี่ร้านทำผมก็เข้ามา และมาดึงแขนพี่ร้านทำผมไปตะคอกถามด้วยความโมโหว่าเงินกูหายไปไหน คุยกันสักพักจึงเดินกลับเข้ามา พี่เนจึงเปลี่ยนใจยังไม่ทำสีผม ขอเป็นสระผมก็พอ พี่ร้านทำผมจึงยิ้มแหยๆให้ เมื่อกลับมาที่ห้อง พี่เนได้รับข้อความว่าแม่เพื่อนสนิทเสียชีวิต จึงได้เดินทางไปช่วยงานเป็นเวลาทั้งหมด6วัน หลังเสร็จงานศพจึงกลับมาที่ห้องและพบความผิดปกติคือ ถนนในซอยเงียบมากจนรู้สึกขนลุก พี่เนเดินผ่านวงเหล้าเล็กๆหน้าห้องเช่าไปยังห้องของตัวเอง ขณะกำลังไขกุญแจเข้าห้องก็เห็นรอยเลือดแห้งๆหน้าห้องพี่ร้านทำผมที่คล้องกุญแจปิดไว้ ก็รู้สึกกังวลและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ร้านทำผม

เมื่อพี่เนเข้าไปในห้องได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงประตูห้องใกล้ๆเปิด จึงดีใจเพราะคิดว่าพี่ร้านทำผมกลับมาแล้ว เมื่อเดินไปเข้าห้องน้ำที่หลังห้องเช่า ก็ได้ยินเสียงพี่ร้านทำผมเรียก "เน.. เน.." จึงชะโงกหน้าผ่านเหล็กดัดหลังห้องไปดู ก็เห็นหน้าพี่ร้านทำผมโผล่ขึ้นมาครึ่งหน้า เหมือนกำลังยืนเขย่งตัวอยู่และไฟที่มืดสนิททั้งห้อง "มีอะไรคะพี่"  "มาทำสีผมมั้ย พี่กำลังว่าง" ด้วยความเพลียพี่เนจึงตอบปฎิเสธไป และถามกลับไปว่า "พี่ไปไหนมาคะ" "แฟนพี่มันขังพี่เอาไว้ในนี้ ช่วยพี่ด้วย" ด้วยความสงสัยพี่เนจึงตอบกลับไป "แป๊บนึงนะพี่" แล้วเดินออกมาทางหน้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงพี่เค้าร้องไห้ พี่เนเปิดประตูบ้านออกมา และมาดูที่หน้าร้านทำผมก็เห็นว่าล็อกกุญแจไว้ จึงตะโกนเรียกพวกที่ตั้งวงเหล้า "พี่ๆ มาช่วยกันหน่อยมีคนโดนขังไว้ในห้องเบอร์13"

ก็ไม่มีใครมาช่วย มีคนนึงกวักมือเรียก พี่เนจึงเดินไปหา ชายคนนั้นก็เอามือป้องปากแล้วเล่าเบาๆว่า 
"น้องห้องแถบนั้นไม่มีใครเค้าอยู่กันแล้วนะ ผู้หญิงร้านทำผมถูกแฟนใช้ไขควงแทงคอตายไป3-4วันแล้ว"
พี่เนก็รู้สึกตกใจ งั้นเมื่อกี้ตัวเองยืนคุยกับใคร จึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง คนในวงเหล้าจึงบอกว่า ห้องเบอร์14 ก็เจอมาเหมือนกัน โผล่หน้าออกมาคุยแค่ครึ่งเดียว คุยไปคุยมา หน้าก็ลอยสูงขึ้น สูงขึ้นจนไปติดเพดานทั้งตัว!!

พี่เนได้ยินดังนั้นก็ตกใจกลัว น้ำตาคลอ และขอให้พี่ๆในวงเหล้าพาไปล็อกประตูห้อง แล้วจึงกลับไปนอนที่บ้านแม่

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...