ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

น้อง...เห็นเมียพี่ด้วยเหรอ!!


เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ10ปีที่แล้ว เมียผมได้เสียชีวิตด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเองเหมือนกับคุนพุ่มพวง ดวงจันทร์ ตอนแรกก็เป็นคนแข็งแรงดีปกติทุกอย่างแต่อยุ่ๆก็ป่วยลง มีอาการหนักมากกินข้าวไม่ได้ ถ่มน้ำลายตลอดเวลา ร่างกายก็ทรุดโทรมลงเรื่อยๆจากที่เคยอ้วนก็ผอมจนหนังหุ้มกระดูก 


ป่วยมาสัก3-4ปีก็ได้เสียชีวิตลง...คืนที่เสียมีนกแสกมาเกาะอยุ่บนต้นมะพร้าวตรงห้องนอนที่เมียผมนอนอยู่เยอะมากๆผิดปกติและส่งเสียงจิกตีกันดังมากเหมือนแย่งอะไรกันสักอย่างเสียงร้องน่ากลัวมาก พอเมียผมตายก็จัดพิธีศพแบบคนเหนือ(ผมอยุ่จ.แพร่) สวดศพ3คืนแล้วก็เผาตามประเพณี ตอนสวดศพ3คืนเหตุการณ์ปกติทุกอย่าง พอเสร็จงานทุกอย่างแล้วผมก็กลับไปอยุ่บ้านกับพ่อแม่ผมกับเมียคนที่ตายเราไม่มีลูกด้วยกันบ้านพ่อแม่ก็อยุ่คนละหมุ่บ้านกัน  ตอนผมกลับมาอยุ่บ้านพ่อแม่แล้วเรื่องก็เกิดขึ้น  คืนแรกผมไปกินเหล้ากับเพื่อนเพราะยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของเมีย 


ประมาณ5ทุ่มผมกลับมาบ้านพ่อบอกว่าตอน3ทุ่มพ่อกับแม่นอนหลับอยุ่มีเสียงหมาหอนตรงถนนซอยเข้าบ้าน  หมามันหอนใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนมาถึงประตูบ้านผม แล้วเงียบไปกลายเป่นลมพัดแรงมากพ่อผมลุกเปิดหน้าต่างดูแต่ความมืดแกไม่เห็นอะไรเลยกะจะนอนต่อ สักพักก่มีเสียงคนเดินรอบบ้านเสียงเดินนั้นพ่อกับแม่บอกจำได้ดีว่าเสียงเดินของเมียผมที่ตายแน่นอนพ่อบอกว่าเดินอยุ่นานมากจนพ่อกับแม่กลัวจึงบอกเขาว่าอย่ามาหลอกหลอนกันเลย เสียงเดินจึงเงียบ พอผมกลับมาบ้านคืนนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก จนคืนที่2ผมไปกินเหล้าที่ร้านอาหารใกล้บ้านผมไป6คนกับเพื่อนเอารถเครื่องไป3คันช้อน 2คนพอถึงร้านก่เดินขึ้นร้านไปนั่งโต้ะสั่งเหล้ากับแกล้ม  พอเด็กเสริฟเอาเหล้ามาก่จัดแก้วมา7ใบ ตอนแรกคิดว่าเด็กเสริฟจะมานั่งกินด้วยก็เลยไม่ถาม  เพราะผมไปกัน6คนแต่มีแก้ว7ใบ 


เด็กเสริฟได้เทเหล้าใส่แก้ว7ใบแล้วเค้าไม่ได้มานั่งด้วยกัน พวกผมกินเหล้ากันคุยกันไป จนร้านปิดจึงเช็คบิล พอเด็กเสริฟมาเช็คบิลผมก็ได้ถามว่าชงเหล้าไว้ทำไมไม่มากิน เด็กมันบอกว่าจะให้กินเหล้าไหน  ผมก็บอกว่าก่เหล้าที่น้องเทไว้นี่ไง เด็กมันบอกจะกินได้ไงเหล้าแก้วนี้ของเมียพี่ ผมก็บอกเมียไหน (เด็กเสริฟไม่รุ้ว่าเมียผมตายเพราะอยุ่คนละบ้านกัน)เด็กมันก็บอกว่าก็หนูเห็นเมียพี่ที่ซ้อนรถมาด้วยกันไง หนูเลยชงเหล้าให้7แก้ว พวกผมสะดุ้งเลย!! เพื่อนผมบอกเด็กไปว่าเมียผมเสียชีวิตแล้วจะเห็นได้ไง ตอนแรกเด็กไม่เชื่อคิดว่าอำกันจนผมยืนยันเด็กจึงแล้วร้องไห้เลยเด็กบอกเห็นจริงตั้งแต่ขี่รถเข้ามาและเดินตามผมขึ้นร้าน ผมคิดว่าเขาคงตามผมมาจริงๆเพราะก่อนตายเขาพูดว่าจะพาผมไปกับเขาด้วย  ผมรีบกลับบ้านเลยเพื่อนผมใจคอไม่ดีเลยชวนกันกลับ


พอคืนที่3ผมอยุ่บ้านไม่กล้าออกไปไหน จนสักเที่ยงคืนมีเสียงหมาหอนอีกแล้วเสียงนั้นขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนถึงบ้านผมแล้วก็เงียบไป  ผ่านไปสัก3-4นาทีตอนนั้นพ่อแม่และผมนอนนิ่งหูคอยฟังแต่เสียงสักพักก่มีเสียงคนเดินขึ้นบันไดเสียงเดินดังมากจนบ้านสะเทือนเลย ผมจำได้ว่าเสียงเดินเป็นของเมียคนที่ตายแน่นอน เดินขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงประตูตอนนั้นใจสั่นกลัวมากเลยคับ เสียงหยุดที่ประตูแล้วมีเสียงเหมือนไฟช็อตดังเปรี้ยะๆดังมากแล้วได้ยินเหมือนคนร้องแบบเจ็บปวดแล้วเงียบไป  จนเช้าพ่อกับแม่บอกว่าอย่างนี้อยุ่ไม่ได้ต้องไปหาหลวงพ่อที่วัด  พอไปเจอหลวงพ่อๆบอกว่าเมียผมเขามาตามผมจะเอาไปอยุ่ด้วย พระท่านก่ให้ผมทำพิธีและรดน้ำมนต์แล้วเอาสายสินธ์ไปวนรอบบ้าน พอทำแล้วก่ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกเลย


หมายเหตุ : ตรงที่เสียงเหมือนช๊อตนะคือตรงประตูบ้านมีตะแลวติดอยุ่ตรงประตู(ตะแลว..คือของขลังของทางเหนือที่ใช้ป้องกันผีเป่นของที่สานจากไม้ไผ่นะคับ
ขอบคุณเรื่องเล่าดีๆจาก fb : คุณนพดล ริมฝาย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...