ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เหตุเกิด ณ ตึก6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนนท์


สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมที่จะนำเรื่องเล่าสยองขวัญที่ได้เจอมากับตัวมาแบ่งปัน ใครว่าผีไม่มีจริง!! ผมคนนึงหละที่ไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับ จนได้สัมผัส งั้นมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า พูดมากเสียเวลา

ย้อนกลับไปสมัยที่ผมยังเป็นเด็กมอปลายใส่ขาสั้นย่านนนทบุรี อยู่ติดกับวัดแต่ก่อนเป็นโรงเรียนชายล้วน ปัจจุบันเป็นแบบสห. ...เรื่องนี้เกิดจากด้วยความที่ผมกับเพื่อนๆเป็นคนไม่ชอบเข้าแถวกันเพราะร้อน จึงมักหาที่แอบ เพื่อหลบสารวัตรที่เดินตรวจตามอาคาร ตอนนั้นนึกขึ้นได้ว่ามีอาคาร6เป็นอาคาร7ชั้น(ไม่รวมดาดฟ้า)เนื่องจากอาคารนี้ไม่ค่อยมีสารวัตร ผมกับเพื่อน5-6คน จึงขึ้นไปชั้น6 ขึ้นไปเป็นห้องคอมอยู่ขวามือ เดินตรงไปเป็นประตูบานใส มองตรงไปเป็นระเบียง ซ้ายมือเป็นห้องน้ำเก่าๆ ขวามือเป็นที่เก็บเก้าอี้คอมเก่าที่ไม่ใช้แล้ววางทับถมกันอยู่ แต่ติดที่มันดันล็อคกุญแจไว้

แต่ด้วยความที่ลงความเห็นว่าจะแอบกันตรงนี้ ผมกับเพื่ิอนจึงช่วยกันพังกุญแจ(ทำลายทรัพย์สินโรงเรียนอีก)- - กุญแจเปิดออก ผมช่วยกันรื้อเก้าอี้เก่าๆออก เอามาวางใหม่เป็นทางเดิน ทำข้างในให้โล่งๆ คนข้างนอกถ้ามองเข้ามาจะไม่เห็น แต่คนข้างในมองไปจะเห็นข้างนอก และผมทำหน้าที่คอยส่องไปดูข้างนอกด้วยความระแวง ส่วนเพื่อนๆผมก็นั่งคุยเฮฮากันอยู่ มองไปสักพักเชื่อไหมผมเห็นอะไร!!

ผมเห็นเป็นผู้หญิงครับนุ่งขาว เป็นผู้หญิงผมสั้นแต่เรามองหน้าเค้าไม่ออก อยู่ๆวิ่งผ่านสายตาผมไป วิ่็งตรงไปทางระเบียงและกระโดดเฉยเลยครับ แบบโดดลงไปแบบไม่ลังเลเลย(พูดแล้วขนลุก) ตอนนั้นผมอึ้งมาก ตอนนั้นภาพที่เห็นมันเหมือนหยุดเอาไว้ ไม่เชื่อสายตาตัวเองมากๆ บวกกับไม่กล้าบอกเพื่อนกลัวโดนหาว่าเพ้อเจ้อและไปทำลายบรรยากาศ

พอแถวปล่อยผมก็เล่าให้เพื่อนฟัง เชื่อไหมครับไม่ใช่ผมคนเดียวที่เห็นเพื่อนผมอีก2คนก็เห็นแต่ด้วยความที่กลัวคิดไปเพราะตาฝาดจึงไม่มีใครกล้าพูด ผมเลยชวนเพื่อนไปดู และแล้วก็ขนลุกอีกครั้ง ระเบียงมันแบบมียื่นออกมาแบบเป็นฐานรอง(อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน) และสูงมากชั้น6นะครับ คงไม่มีใครกล้าโดดหรอก ด้วยความกลัวผมกับเพื่อนวิ่งเลยครับสับteenแตก และเก็บเรื่องนี้ไว้ ไม่มีใครกล้าพูดถึงอีกเลย

และมารู้ทีหลังจากอาจาร์ยว่าตึกนี้อดีตเคยมี นักเรียนโดดลงมาจากดาดฟ้า และดาดฟ้าได้ถูกปิดตายเรียบร้อย เกี่ยวไหมนะที่เค้าบอกกันคนที่ฆ่าตัวตาย ก็จะทำแบบนี้คือโดดๆไปเรื่อยๆจนถึงอายุขัยตัวเองจึงจะได้ไปเกิด

ปล.เรื่องนี้ยืนยันไม่ใช่เรื่องแต่ง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผิดพลาดประการใดขออภัยนะครับ ขอบคุณครับ ^ ^

เพิ่มเติม...อีกเรื่องเกิดที่โรงเรียนเดียวกัน
เรื่อง ผีลิฟท์ตึก7...เมื่อครั้งยังอยู่ในช่วงก่อสร้างตึกอย่างเร่งด่วนในข่วงปิดเทอม เพื่อให้ตึกเสร็จทันใช้ตอนเปิดเทอม ได้มีคนงานพม่าพลัดตกลงจากช่องลิฟท์ชั้น4 (ฝั่งโรงอาหาร)  ร่างกระแทกพื้นชั้น1 เสียชีวิตคาที่ ด้านฝั่งผู้รับเหมาได้ชดใช้ค่าทำศพให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต และปิดข่าวเงียบไป

ปัจจุบันลิฟท์ตัวนั้นมีปัญหาค้างอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีคนใช้ลิฟท์เพียงคนเดียว จากประสบการณ์ของผู้ที่เคยติดอยู่ในลิฟท์ เล่าว่า ตอนเข้าลิฟท์เข้าไปคนเดียว แต่ตอนลิฟท์ค้างมีเสียงผู้ชายดังมาจากด้านหลัง บอกให้โทรตามคนมาช่วย

เคสที่2 มีนักเรียนใช้ลิฟท์กลุ่มหนึ่ง พอลิฟท์ค้างได้กดปุ่มสปีคเพื่อในคนมาช่วย เจ้าหน้าที่ถามว่าติดอยู่ทั้งหมดกี่คน เพื่อนๆก็ช่วยกันนับได้ทั้งหมด9คน แต่ตอนช่วยเหลือออกมามีรวมทั้งหมด8คน หายไป1คน


เคสที่3 นักเรียนใช้ลิฟท์จากชั้น4 เพื่อจะขึ้นไปยังชั้น6 พอประตูลิฟท์ปิด ความรู้สึกเหมือนโดนตัดสายลิฟท์ ลิฟท์กำลังหล่นไปกระแทกพื้นด้านล่าง(เท้าลอยจากพื้นลิฟท์)  ทุกคนต่างสวดมนต์ภาวนา  สุดท้ายลิฟท์ไปเปิดที่ชั้น6

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ