ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โรงแรมสยองชั้น3 ห้อง313


เรื่องหลอน ชั้น 3 ห้อง 313 "เหรียญทอง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงแรมสยอง...ดิฉันเป็นเซลส์ (หญิง) ในบริษัทหนึ่งที่กรุงเทพฯ แต่อยู่ฝ่ายต่างจังหวัด ชีวิตประจำวันมักจะอยู่ในรถประจำทางกับห้างร้าน ส่วนที่หลับที่นอนก็มักไม่พ้นโรงแรมหรอกค่ะ ตอนแรกๆ ก็กลัวนะ กลัวทั้งผีทั้งคน...กลัวสายตาที่มองว่าเราเข้าโรงแรมบ่อยๆ คงจะเป็นผู้หญิงไม่ดี! แต่เดี๋ยวนี้ทำงานมานานจนเลิกกลัวหมดแล้ว หมดวัยที่จะกลัวอะไรง่ายๆอีกต่อไป

เมื่อตอนต้นปี ดิฉันนั่งรถทัวร์จากนครสวรรค์ไปเชียงราย เที่ยวนั้นจะไปถึงจุดหมายราวตี 5 แต่พ่อเจ้าประคุณคนขับสวมวิญญาณเท้าปีศาจ...ตี 3 เกือบ ตี 4 ก็ถึงแล้ว! พอก้าวลงจากรถ โห...หนาวจัง! เย็นเฉียบจับใจเลย โรงแรมไม่ได้จองเพราะส่วนมากมีเหลือเฟือ ถ้าแห่งแรกเต็มก็ไปหาแห่งที่สองไม่ยาก แต่เมื่อนั่งตุ๊กตุ๊กจากท่ารถไปถึงโรงแรมเจ้าประจำ ปรากฏว่าพนักงานสองคนนอนคลุมโปงหลับสนิท มีป้ายติดว่า "ห้องแอร์ ห้องพัดลม-เต็มหมด!!" ตัดสินใจเดินไปหาโรงแรมอื่นที่เคยพักนานมาแล้ว อยู่ห่างไปราว 200 เมตร เวลาราวตี 4 เศษเดินอยู่คนเดียว ไฟฟ้าตามเสาส่องสว่างทำให้ไม่น่ากลัวเท่าไรนัก...มือหนึ่งหิ้วกระเป๋า ที่ไหล่ก็สะพายกระเป๋าใบเล็ก มืออีกข้างก็เกาะอกเพราะมันหนาวยะเยือกจริงๆ

เมื่อถึงจุดหมายก็แทบเข่าอ่อนเมื่อเห็นพนักงานลงไปนอนคลุมโปงอยู่หลังเคาน์เตอร์ ตามทางเดินเห็นถุงนอนหลายถุงล้นห้องออกมาเลย...ต้องปลุกพนักงานขึ้นมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น? คำตอบคือ อากาศหนาว-นักท่องเที่ยวมาก จองห้องเต็มไว้นานแล้ว! ดิฉันต้องขอร้องให้ช่วยติดต่อโรงแรมที่รู้จักว่าพอมีห้องว่างหรือเปล่า? ปรากฏว่าเขาโทรศัพท์ครู่หนึ่งก็ได้ข่าวดี...รปภ.ช่วยขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งโรงแรมแห่งที่ 3 บังเอิญหรือเปล่าไม่ทราบ ดิฉันได้ห้องพักชั้น 3 ห้อง 313 ตรงทางพอดี...ตามตำราว่าเป็นห้องตรงกับธนูที่แล่นเข้าปะทะห้องได้ ถือว่าเป็นห้องไม่ดีมากๆ แต่ยามนี้ขอให้ได้พักก่อนเถอะ ขืนอยู่ข้างนอกก็น่ากลัว แถมอาจหนาวตายอีกต่างหาก

เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า สวดมนต์แล้วปิดไฟห่มผ้านอนทันที ไม่นานก็เคลิ้มหลับ จิตจมดิ่งล้ำลึก...วูบลงไปอย่างไร้ตัวตนและรู้สึกอึดอัด คล้ายปลายเตียงจะยุบตัววูบวาบ...เห็นผู้หญิงเป็นเงาดำๆ มาร้องไห้กระซิกๆ เลยมาแถวสะโพกมีผู้ชายนั่งตัวแข็งตั้งหน้าตั้งตาผลักดิฉันออกจากเตียงไม่หยุดหย่อน ผู้หญิงก็เอาแต่ร้องไห้ ผู้ชายก็เอาแต่ผลักไสดิฉันท่าเดียว! ท่ามกลางความอึดอัดแทบจะหายใจไม่ออก ดิฉันคิดว่าตัวเองดิ้นรนสุดฤทธิ์ สวดมนต์กลับไปกลับมาหลายเที่ยวถึงได้รู้สึกตัว...เหงื่อแตกซิกอยู่ในผ้าห่มนั่นเอง ดิฉันตื่นเต็มที่ ลืมตาโพลงแต่ยังงงงันไม่หาย...นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เราเป็นอะไรไป? ทำไมปวดหัวมากยังงี้? เราฝันไปเองหรือโดนผีหลอกกันแน่?

ไม่ช้าก็เคลิ้มหลับไปอีก...ตอนนี้เดินไปเจอผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อขาวแขนยาว กางเกงสีทึบ เขาบอกดิฉันว่าเขาอยู่ที่นี่มานานแล้ว ยังไม่ได้ไปไหนเพราะถูกยิงตายที่นี่ (คิดว่าเรายังอยู่ในความฝัน และกำลังคุยกับผี) จึงพยายามเลี่ยงออกมา ถามเขาว่าอยู่มานานแล้วได้กินอะไรบ้างหรือยัง? แล้วดิฉันก็ขอตัวเดินออกมา (ในฝัน) เดินออกมาเรื่อยๆ เจอป้าขายข้าวแกง จึงคิดจะซื้ออาหารใส่บาตรไปให้เขา ได้ถามป้าว่า...โรงแรมนี้มีคนถูกยิงตายใช่ไหม? ป้ารู้จักไหมว่าเขาเป็นใคร? คำตอบก็คือ...ลูกชายป้าเอง!!
ดิฉันถามเขาว่าเขาชอบกินอะไร? ป้าก็ชี้มือไปที่หม้อพะโล้กับหม้อเครื่องในหมู มีตับ ปอด หนัง ไส้อ่อน เหมือนตุ๋นรวมกัน ดิฉันชี้ไปที่หม้อทั้งสองบอกว่าเอา อย่างละ 1 ชุด...ทุกอย่างหยุดชะงักเพียงนั้น เพราะอีกจิตบอกว่ามีใครกำลังดึงผ้าห่ม ดิฉันบอกว่าอย่าดึงๆ กำลังจะตกเตียงแล้ว! อย่าดึงผ้าออก...อย่าๆๆ

ในที่สุดจิตก็กลับมาอยู่ที่ตัว ดิฉันลืมตาตื่น ได้ยินเสียงรถรา เสียงนกร้อง...แสงลอดผ้าห่มบอกว่าสว่างแล้ว รีบสลัดผ้าห่มออกอย่างแรง...โห! สว่างโล่งเลย เมื่อลุกขึ้นมองห้องก็สะดุดตาป้ายกฎระเบียบใส่กรอบแขวนไว้...กระดาษสีน้ำตาลเก่าแก่นมนานเต็มที มองต่อไปตามโต๊ะและซอกมุม เห็นฝุ่นเยอะจัง...เรานอนได้ไงเนี่ย? หัวเตียงก็ฝุ่นเขรอะ แสดงว่าไม่ได้ทำความสะอาดนานแล้ว...รีบอาบน้ำ เก็บของลงกระเป๋า พอกันที! แค่คิดก็บรื๋อ...สยอง! เล่นกันถึง 3 แบบ 3 มุมเลย ห้องก็อยู่ชั้น 3 เลขห้อง ก็ 313

ดิฉันแต่งตัวเสร็จก็เช็กออกเลย...จนไปถามป้าขายขนมจีนที่เคยกินประจำ คำตอบคือ...เมื่อราว 20 ปีก่อนได้ข่าวว่าโรงแรมนี้มีญาติยิงกันตาย...แขกที่มาพักกับโสเภณีก็ถูกฆ่าหลายคนแล้ว นึกถึงความฝันน่ากลัวของตัวเอง ตอนนี้ถึงกับขนหัวลุกเลยค่ะ!

ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด คอลัมภ์ ขนหัวลุก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...