ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ไม่ดีต่อใจ ยังไงก็ไม่อยู่...เจอผีผูกคอตายต่อหน้าต่อตา เป็นใครก็อยู่ไม่ได้


เรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยที่คุณแบงค์เรียนอยู่ ซึ่งตอนนั้นคุณแบงค์จองหอในไม่ทัน ก็เลยต้องไปหาหอนอก แล้วไปปรึกษารุ่นพี่คนนึง เขาก็แนะนำหอๆนึงเดือนละ 2000 บาท รุ่นพี่ก็ยังบอกต่ออีกว่า มันถูกจริง แต่หอนี้มีประวัตินะก็คือว่า หอนี้เป็นตึก 6 ชั้น ที่ห้อง 602 นั้นเคยมีนักศึกษาหญิงคนนึง เครียดจากผลการเรียนที่ไม่ดี โดนไทร์ แล้วผูกคอตายเสียชีวิตในห้องนั้น 

แต่ว่าทางหอพักก็ได้ทำการปิดชั้น 6 ไปแล้วทั้งชั้น เพราะฉะนั้นก็จะเหลือแค่ 5 ชั้น  คุณแบงค์ก็ตัดสินใจที่จะเช่าหอนี้เพราะว่าถูก และส่วนตัวคุณแบงค์นั้นเป็นคนที่ไม่กลัวผี ซึ่งห้องที่คุณแบงค์ได้นั้นคือห้อง 502 ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ข้างล่างห้องที่มีผู้หญิงผูกคอตายพอดี และในคืนแรกที่คุณแบงค์นอน ก็ได้ยินเสียงลากเก้าอี้ ครืดๆๆ ซักพักเสียงเก้าอี้ก็ล้ม อยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง ซึ่งแรกๆ คุณแบงค์ก็รู้สึกกลัวอยู่นิดหน่อย แต่หลังๆมาเริ่มไม่กลัวแล้ว เพราะเสียงนี้มาทุกวัน จนมีคืนนึง คุณแบงค์ก็เครียดๆกับการเรียน จากที่มหาวิทยาลัย อารมณ์ไม่ค่อยดีก็กลับมานอนที่ห้อง และเสียงลากเก้าอี้เสียงเดิมก็มาเหมือนทุกๆวัน แต่ด้วยความที่คุณแบงค์อารมณ์ไม่ค่อยดี ก็เลยตะโกนกลับไปว่า “โอ้ย อะไรนักหนาวะ กูจะนอน จะเสียงดังหาพ่อหรอ” แล้วเสียงก็เงียบไปซักพัก แล้วก็มีเสียงเก้าอี้ล้มดังมากเหมือนกับว่าไม่ค่อยพอใจ

วันต่อมา คุณแบงค์นั้นเลิกเรียนตอนบ่าย 3 ก็จะกลับขึ้นไปนอน คุณแบงค์ก็จะกดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 5 เป็นปกติ และก็เล่นโทรศัพท์ไปด้วย พอประตูลิฟท์เปิด คุณแบงค์ก็เดินเล่นโทรศัพท์ออกมาจากลิฟท์ แต่สิ่งที่คุณแบงค์เห็นก็คือ ที่พื้นมีฝุ่นเยอะมาก มีกลิ่นแปลกๆ เหม็นอับ และป้ายชั้นที่ติดอยู่ที่กำแพงเป็นเลข 6 พอคุณแบงค์เห็นก็รีบกลับไปที่ลิฟท์เพื่อที่จะลงลิฟท์ แต่ว่าลิฟท์ที่ชั้น 6 นั้นไม่ทำงาน กดที่ปุ่มลงไฟก็ไม่ติด คุณแบงค์ก็เลยเดินไปทางบันไดที่จะลงไปชั้น 5 แต่ว่าตรงบันไดนั้นก็มีประตูเหล็กล็อคปิดอยู่ สุดท้ายคุณแบงค์ก็เลยต้องโทรหาป้าที่คุมหอให้ขึ้นมาเปิดให้ พอโทรไป ป้าแกก็ถามว่า ขึ้นมาได้ไง คุณแบงค์ก็บอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน ลิฟท์มันส่งขึ้นมา และป้าก็วางหูโทรศัพท์และก็มาเปิดให้  ระหว่างที่คุณแบงค์รอป้ามาเปิดให้ คุณแบงค์ไม่รู้นึกยังไงเดินไปที่ห้อง 602 ซึ่งทั้งชั้น 6 นั้น ประตูห้องปิดหมดทุกห้อง ยกเว้นห้อง 602 พอเดินไปถึง คุณแบงค์ก็ได้ยินเสียงครืดๆๆๆ และเห็นผู้หญิงเดินก้มหน้ามาจากในห้อง มีเชือกคล้องที่คอ แล้วก็ลากเก้าอี้ออกมา พอคุณแบงค์เห็นก็รีบวิ่งไปที่บันไดมาเคาะประตูเหล็ก แล้วก็มีเสียงตามหลังมาด้วย แต่ว่าป้าก็มาเปิดประตูเหล็กให้พอดี

พอคุณแบงค์เจอเหตุการณ์นี้ก็โทรไปหาแม่ บอกว่าอยากจะย้ายหอ แต่คุณแบงค์ก็ไม่ได้เล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ก็หาข้ออ้างนู่น นี่นั่นไปต่างๆนานา แต่แม่ก็ให้อยู่ที่หอเดิมต่อ แต่ว่าคุณแบงค์ก็ไม่อยู่ เลือกที่จะไปอยู่หอเพื่อนแทน ผ่านไปซักระยะนึง คุณแบงค์ก็กลับมาอยู่ที่หอตัวเอง แต่ว่าคราวนี้จะไม่ใช้ลิฟท์ เลือกที่จะใช้บันได ซึ่งตอนที่คุณแบงค์กลับมานอนที่หอ รอบ 2 นี้ ตอนนอนจะไม่มีเสียงลากเก้าอี้ หรือเสียงเก้าอี้ล้มเหมือนก่อนหน้านี้เลย จนมาถึงคืนนึง คืนนั้นคุณแบงค์ก็ออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ก็มีดื่มบ้างนิดหน่อย แล้วเพื่อนก็มาส่งที่หอ ตอนแรกคุณแบงค์บอกเพื่อนว่าจะเดินขึ้นบันไป แต่เพื่อนเห็นว่าคุณแบงค์นั้นมีอาการมึน เมา เลยบอกว่าให้ขึ้นลิฟท์ดีกว่า 

สุดท้ายคุณแบงค์ก็ขึ้นลิฟท์ไป รอบนี้ลิฟท์ก็เปิดที่ชั้น 5 ปกติ ก็เดินไปที่ห้องของตัวเอง แต่ตอนที่คุณแบงค์กำลังจะไขกุญแจห้อง คุณแบงค์ยังไม่ทันได้บิดกุญแจ ประตูห้องก็เปิดออกเอง ตอนนั้นคุณแบงค์ก็คิดว่าตัวเองนั้นลืมล็อกห้อง แต่ภายในห้องนั้นก็เป็นปกติทุกอย่าง คุณแบงค์รู้สึกมึนๆก็เลยตัดสินใจนอน แต่พอนอนไปได้ซักพัก รู้สึกว่าโดนผีอำ ขยับตัวไม่ได้ ลุกไม่ได้ แต่สายตาคุณแบงค์นั้นก็มองไปที่กลางห้อง ก็เห็นเหมือนมีคนลากเก้าอี้เข้ามาที่กลางห้อง แล้วก็วางเก้าอี้ แล้วเอาเชือกมัดกับพัดลมเพดาน และผูกคอตัวเอง แล้วก็ทิ้งตัวลงมา เก้าอี้ก็ล้ม และก็ดิ้นๆๆๆ จนเขานั้นหายไป

พอคุณแบงค์หลุดจากผีอำ ก็รีบหยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อนให้มารับ บอกว่า กูเจอดีหวะ เพื่อนก็บอกว่า โอเคเดี๋ยวขึ้นไปรับ ในระหว่างที่รอเพื่อนมา คุณแบงค์ก็หลับไปอีกครั้งนั้น แล้วคุณแบงค์ก็ฝันว่า ตัวเองเกรดตก ถูกรีไทร์ แล้วก็ผูกคอตายเหมือนกับที่ผู้หญิงคนนั้นทำเลย ซึ่งความรู้สึกมันเหมือนจริงมาก แต่ว่าคุณแบงค์ก็สะดุ้งตื่นเพราะเพื่อนโทรศัพท์เข้ามาพอดี พอคุณแบงค์รับเพื่อนก็ถามว่า อยู่ไหน คุณแบงค์ก็บอกว่า อยู่ที่ห้อง เข้ามาเลย เพื่อนก็บอกว่า กูมารอแล้ว เคาะประตูเรียกก็ไม่ตอบ คิดว่าเป็นอะไร ก็เลยให้ป้าที่คุมหอมาเปิดประตูให้ แต่ก็ไม่เห็นอยู่ที่ห้อง ตกลงอยู่ไหน พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นแหละ คุณแบงค์รีบวางโทรศัพท์แล้วเปิดโหมดไฟฉาย ซึ่งสภาพภายในห้องที่คุณแบงค์เห็นนั้นไม่เหมือนที่เข้ามาตอนแรกที่เข้ามา เหมือนไม่ใช่ห้องคนอยู่ และจากกลิ่นปกติก็กลายเป็นกลิ่นเหม็นสาบ คุณแบงค์ก็เลยตัดสินใจกระโดดพุ่งออกมาจากห้องนั้นทันที และคุณแบงค์ก็เหลือบไปมองที่เลขห้องก็ปรากฎว่าเป็นห้อง 602คุณแบงค์ก็วิ่งไปที่บันไดที่มีประตูเหล็กปิดอยู่ และในระหว่างที่วิ่ง ก็มีเสียงผู้หญิงหัวเราะตบท้ายมาด้วย คุณแบงค์ก็เลยกระโดดฉีบประตูเหล็กจนกลอนหลุด และก็มุดออกมา และวิ่งไปกอดเพื่อนที่รอยู่หน้าห้อง 502 ทันที

หลังจากนั้น คุณแบงค์ก็โทรเล่าเรื่องทุกอย่างให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ก็บอกให้คุณแบงค์ย้ายออกเลย ซึ่งระยะเวลาทั้งหมดที่คุณแบงค์นั้นอยู่ห้องนี้เกือบๆ 3 เดือน และหลังจากเกิดเรื่องนี้ คุณแบงค์ก็พักการเรียนไว้ก่อน แล้วก็ไปบวชเลย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...