ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เด็กดอง!!


(เด็กดอง) ช่วงที่เรียน ป.ตรี เราเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งตึกที่เรียนเป็นอาคาร 4 ชั้น เราเรียนอยู่ชั้น 3 และชั้น 2 ซึ่งชั้น 2 เป็นแผนกชีววิทยา ห้องชีวะที่นี่ก็จะเหมือนที่อื่นๆ คือ มีอุปกรณ์ทดลอง มีโหลสัตว์ดอง เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอน


เวลาเราทำการทดลองวิชาชีวะ จะต้องลงมาทำที่ชั้น 2 ช่วงขึ้นปี 3 เราเรียนหนักมากและการทดลองแต่ละตัวต้องทำจนดึกจนดื่น บางทีก็ทำงานกลุ่ม บางทีก็ทำงานเดี่ยว ถ้าใครทำงานช้าก็ต้องอยู่ดึกทำงานให้เสร็จ ถ้าดีหน่อย ใครมีแฟนเรียนที่เดียวกันก็จะมีคนอยู่ช่วยทำงาน วันนั้น เราและนกต้องอยู่รอผลการวิเคราะห์น้ำ เราทำงานกันในห้องเรียนชีวะ ตอนนั้นประมาณ 2 ทุ่มแล้วผลจะออกก็ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง นกหิวข้าวจึงขอลงไปที่มินิมาร์ทข้างล่าง สงสัยจะหิวมากเห็นรีบวิ่งลงไปอย่างไว ส่วนเรานั่งเขียนการบ้านรออยู่ในห้องและต้องเฝ้างานด้วย ลักษณะของห้องจะมีตู้สื่อการสอนและอุปกรณ์ต่างๆ อยู่รอบๆ ห้อง ส่วนตรงกลางเป็นโต๊ะแลปยาวรอบห้อง เรานั่งทำงานที่โต๊ะแลปและหันหลังให้ตู้เก็บสื่อการสอน ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้มองว่าในตู้มีอะไรอยู่


นั่งทำงานเพลินๆ ก็มีความรู้สึกเหมือนมีใครอยู่ข้างหลัง เราก็ไม่ได้สนใจ นั่งทำงานต่อ สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนเด็กหัวเราะอยู่ข้างหลัง ตอนแรกก็คิดว่าหูแว่ว ไอ้นกก็ไม่ขึ้นมาซักที เรานั่งต่อไปเรื่อยๆ จู่ๆ ไฟในห้องก็ดับพรึ่บ ยกเว้นตู้อบที่เราทำการทดลอง เรากำลังจะเดินออกมาดู ว่าข้างนอกไฟดับหรือเปล่าพอเดินมาถึงประตู เราเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเล่นอยู่หน้าระเบียง เด็กคนนั้นหน้าตาน่ารัก แต่แปลกที่เค้าไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่กางเกงตัวเดียว เราสังเกตเห็นที่ข้อเท้าขวาของน้องเค้าสวมกำไลเล็กๆ อยู่ แต่ไม่รู้ว่าใช่ทองหรือเปล่าเพราะมันมืด ตอนนั้นก็เกือบ 3 ทุ่มแล้ว เด็กที่ไหนจะมาวิ่งเล่นแถวนี้ เราจึงเดินไปหา เด็กคนนั้นหันมาชวนให้เราเล่นด้วย บอกว่าเห็นพี่นั่งอยู่คนเดียว หนูเหงาอยากให้เล่นเป็นเพื่อน เราบอกเค้าว่าเรากำลังทำงานอยู่ ต้องคอยดูงานแล้วไฟก็ดับด้วย ไม่รู้ว่างานพี่เสียรึเปล่า เค้าบอกเราว่างานพี่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวหนูช่วยเองตอนนั้น เรามีความรู้สึกงงๆ เบลอๆ ยังไงบอกไม่ถูก แต่เราก็นั่งเล่นกันอยู่ที่หน้าระเบียง น้องเค้าบอกเราว่า เค้าเหงาไม่มีเพื่อนเล่นและคิดถึงแม่ด้วย ตอนนั้นเราก็แปลกใจอยากจะถามว่าเค้าเป็นลูกใครและมาทำอะไรที่นี่ แต่ก็ไม่ได้ถามเค้าบอกว่า พี่มาเล่นด้วยเค้าสนุกและมีความสุขมาก


เรานั่งเล่านิทานให้เค้าฟังไปหลายเรื่อง จนน้องเค้าหลับไปบนตักของเรา เราก็กำลังจะเคลิ้มๆ จะหลับเหมือนกัน แต่ก็ต้องตื่นเพราะเจ้านกมาโวยวายว่าให้เฝ้างานนิดเดียวดันหลับซะได้ไม่รู้งานเสียหรือเปล่า นั่งหลับไปนานรึยังเนี่ย ถ้าผลแลปเสียหายนะจะด่าให้ เราตื่นขึ้นมาก็งงๆ ถามนกว่าเด็กคนนั้นไปไหนแล้ว นกก็งงว่าเด็กที่ไหน เรายืนยันกับนกว่ามีเด็กมาเล่นกับเราจริงๆ เมื่อกี้ยังนอนหนุนตักเราอยู่เลย นกบอกว่าเราบ้าไปแล้วใครจะมานอนหนุนตักเราได้ เพราะเรานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดียว ไม่มีใครทั้งนั้นแหละ

นกจึงเดินไปดูผลแลป และเก็บอุปกรณ์เพราะเกือบจะ 4 ทุ่มแล้ว อยากกลับบ้านเต็มที เรามานั่งนึกดูดีๆ ตอนแรกเรานั่งอยู่กับเด็กคนนั้นที่หน้าระเบียงนี่นา แล้วเรามาอยู่ในห้องได้ยังไง ตกลงเราฝันหรืออะไรกันแน่ พอดีนกเก็บของเรียบร้อยแล้วจึงเดินมาหาเรา เราก็ยังพูดเรื่องเด็กคนนั้นอยู่เพราะเราสงสัยมาก

นกคงรำคาญจึงแกล้งพูดว่า สงสัยเป็นเด็กที่อยู่ในขวดโหลข้างหลังแกมั้ง พอนกพูดแบบนั้นเราจึงหันไปมองในตู้สื่อการสอน ตอนนั้นเรารู้สึกอยากจะเป็นลมไม่อยากรับรู้อะไรเลย มันเย็นวูบไปทั้งตัว ในนั้นมีเด็กดองในขวดโหล เป็นเด็กผู้ชายที่มีอวัยวะครบถ้วน แถมที่ข้อเท้าขวายังใส่กำไลเล็กๆ เหมือนน้องคนนั้นที่มาเล่นกับเราเลย และข้างๆ ขวดโหลมีพวงมาลัยเล็กๆ วางอยู่ด้วย ขวดโหลนี้เราไม่เคยเห็นเลย มันมาวางตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะส่วนใหญ่มีแต่ขวดโหลสัตว์ชนิดต่างๆ ตอนนั้น เราพอจะเดาออกแล้ว ว่าเรื่องที่เราเจอมันคืออะไร เราพยายามตั้งสติ (เพราะเป็นนักวิทยาศาสตร์ ต้องเชื่อเรื่องที่พิสูจน์ได้เท่านั้น) เราชวนนกกลับบ้าน เราพยายามอย่างมากที่จะต้องเดินให้ปกติที่สุด แต่ในใจเราอยากจะวิ่งให้ป่าราบไปเลย พอถึงบ้าน เราเล่าเรื่องทุกอย่างให้นกฟัง นกไม่มีท่าทีสงสัยเลย นกบอกว่าเค้าเจอกันมาเยอะแล้วแต่ไม่ได้เล่าให้เราฟัง ไอ้ที่ลงไปซื้อของน่ะ นกโกหกเรา นกแค่ลงไปตั้งสติ เพราะตอนที่เรานั่งหันหลังทำการบ้านอยู่


นกเห็นเด็กที่อยู่ในขวดโหลขยับตัวและโบกไม้โบกมือให้นก นกเลยรีบลงไปตั้งสตินั่งอยู่ข้างล่างกับลุงยาม กว่าจะทำใจได้กะว่าจะมาตอนผลแลปออกพอดี มิน่าล่ะ พอนกกลับขึ้นมาก็รีบเก็บของใหญ่เลย

วันหลัง เราได้รู้มาว่าศพน้องคนนี้เป็นลูกของอาจารย์ในมหาลัยนี้แหละ แต่พอดีคลอดก่อนกำหนดทำให้เสียชีวิต พ่อแม่เค้ายังทำใจไม่ได้จึงมอบศพให้คณะวิทย์เพื่อทำการดองไว้ เวลาพ่อแม่คิดถึงจะได้มาเยี่ยมได้ เฮ้อก็ยังดีนะ ที่เราเจอแค่ในฝันและมาแบบดีๆ ถ้าเราเจอแบบอื่นสงสัยคงช็อกไปแล้ว แต่ที่เจ็บใจก็เจ้าเพื่อนตัวดีนี่แหละ ฮึ่ม...

CR นิตยสารเรื่องผีและวิญญาณ เรื่องโดย : Safety

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ