ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ประสบการณ์เร้นลับ เจอผีตอนบวชพระ!!


เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเป็นประสบการณ์ตรงของคุณสองเอง ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว สองมีโอกาสได้ไปบวชที่วัดหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ วัดนี้เป็นวัดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ช่วงที่ไปบวชนั้นจะตรงกับช่วงสงกรานต์ สองบวช 15 วัน แต่ว่าต้องอาศัยอยู่ที่วัดก่อน เป็นเวลา 3 วันเพื่อที่จะได้เรียนรู้กิจวัตรและก็ระเบียบต่างๆ 

ช่วงเวลาที่สองจะบวชนั้นเป็นช่วงที่มีพระใหม่ ผู้ปฏิบัติธรรมใหม่อยู่ในวัดเยอะมากๆ ถ้ากะคร่าวๆแล้วก็ต้องมีประมาณ 100-200 ชีวิต เรียกได้ว่าไม่น่ากลัวเลย ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน เพราะว่าจะมีคนเดินกันให้ขวักไขว่ แถมที่วัดนี้ยังไม่มีเณรอีกด้วย ความกลัวในใจของสองก็เลยหายไปเยอะมาก เนื่องจากปกติสองเป็นคนปอดแหกมากๆกับเรื่องแบบนี้ ในช่วงเวลาที่ต้อง ไปอยู่วัดวันก่อนพิธีอุปสมบทนั้น ทุกๆคนต้องปฏิบัติเหมือนกับพระแทบทุกอย่าง การฉัน การนอน การทำวัตร กุฎิที่สองพักนั้นจะเป็นบ้านแฝด ก็คือในหลังเดียวมี 2 ห้อง วันแรกที่เข้าพักก็สังเกตว่าห้องที่อยู่ติดกันมีผู้ปฏิบัติธรรมอยู่ด้วย เป็นผู้ชายวัย 40 ต้นๆ พอสองได้เจอก็ทักทายกันตามปกติ  ได้ความว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่คนนี้เขาก็จะกลับบ้านแล้ว สองก็ได้แต่ ครับ รับทราบ คืนนั้นไม่มีอะไร 

พอรุ่งเช้าของอีกวันสองตื่นขึ้นมา เดินออกมาที่หน้ากุฎิก็เห็นว่าพี่ที่อยู่ข้างห้องนั้นออกไปแล้ว เนื่องจากเห็นว่าคล้องสายยูเอาไว้ วันนั้นสองปฏิบัติธรรมทั้งวัน พอตกตอนเย็นก็ต้องกลับมาอาบน้ำ ก็ยังมองเห็นว่าห้องที่อยู่ติดกันนั้นสายยูยังคงคล้องอยู่ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าคืนนี้ น่าจะไม่มีใครมาพักที่ห้องติดกันแล้วแน่ๆ แต่ว่าคืนนั้น เวลาราวๆเกือบเที่ยงคืนบรรยากาศในวันนี้เงียบมาก สองกำลังนอนอยู่ แล้วก็เริ่มได้ยินเสียง เหมือนคนกำลังหาของอยู่ในห้องซึ่งอยู่ติดกัน ดัง ก๊อกๆ แก๊กๆ ครืดๆ ปังๆ เหมือนกำลังรื้อห้อง แต่ว่าพอนอนฟังไปเรื่อยๆ ก็มีเสียงเหมือนกับคน คล้ายกับกำลังแปรงฟัน ล้างหน้า อะไรประมาณนั้น ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อตอนเย็นห้องยังคงถูกล็อคอยู่ แล้วใครจะมาพักเอาตอน 6 โมงเย็น ถ้าเกิดจะมีใครมาใหม่ก็ไม่ได้แล้ว เนื่องจากทางวัดก็ไม่รับไว้ 

คืนนั้นก็ผ่านไปแบบงงๆปนสงสัย พอสองตื่นเช้าทำวัตรราวๆตี 5 ออกมา ห้องที่อยู่ติดกันก็ยังคงมองเห็นสายยูยังคงถูกล็อคอยู่ สองคิดในใจ เอ๊ะ หรือว่าเค้าออกไปเร็ว  ตอนนั้นยังมองในแง่บวก พอตกตอนเย็นทำธุระทุกอย่างเสร็จ กำลังจะกลับมาอาบน้ำ ก็ยังคงเห็นห้องนั้น ถูกล็อคอยู่เหมือนเดิม ก็เลยตัดสินใจถามกับพระพี่เลั้ยงตรงๆเลยว่า "หลวงพี่ครับ ห้องนี้มีใครมาพักหรือยัง" แต่ท่านก็บอกว่า "ยังเลย และท่าทาง จะว่างอีกนานด้วย เนื่องจากพระใหม่นั้นจะมาก็ราวๆสัก 8-9 วัน" สองก็ได้แต่คิดในใจว่า เอาแล้ว โดนละมั้ง ที่ได้ยินเมื่อคืนใช่แน่ๆ  แล้วคืนนั้น ก็ได้เรื่องจริงๆ เสียงของข้างห้องนั้นดังทุกสิ่งที่ควรจะดัง สองกลัวมาก ใส่หูฟัง เอาผ้าปิดตา หลับทั้งแบบนั้น ไม่ยอมไปทำวัตรเช้าด้วย ความรู้สึกก็คือใช่แน่ๆ แค่มองไม่เห็นเท่านั้นเอง นั่นคือเหตุการณ์แรก 

มาถึงเหตุอีกเหตุการณ์ ในช่วงนั้นสองได้บวชแล้ว ประมาณซัก 2 วันก็จะสังเกตเห็นได้ว่ามีน้องเณรซึ่งก็คือน้องชายของ เพื่อนพระมานั่งด้วยทั้งวัน ซึ่งปกติแล้วทางวัดจะแยกให้เณรนั้นอยู่อีกฝั่งนึง แต่ว่าพระสองเห็นเณรมาอยู่ด้วย 2-3 วันก็เลยถามกับเพื่อนว่า. "น้องเป็นอะไรหรือเปล่า" เพื่อนพระก็บอกว่า "เณรน้องนอนไม่ได้เลย ที่ตึกของเณรมีเรื่องไม่ธรรมดา" เณรก็เล่าให้ฟังว่าในระหว่างที่นอนอยู่ ตึกเณรนั้นมีเด็กตัวขาว หัวโล้น ถอดเสื้อ มานั่งกอดเข่าอยู่ตรงมุมห้องแล้วก็นั่งจ้องมาที่น้องคนเดียว "เณรน้องก็เลยต้องมาอยู่กับผมเนี่ย พรุ่งนี้ก็ว่าจะให้เณรน้องสึกก่อน เนื่องจากกลัวมากแล้วก็สงสารน้องด้วย" เหตุการณ์นี้แม้แต่ท่านเจ้าอาวาสก็ยังเอามาพูดเลยว่ามีน้องเณร โดนผีหลอก ม่านเล่าปนขำๆว่า "แหม เขาก็มาหยอกนะ บุญเราเยอะ"

มาถึงเหตุการณ์ที่ 2 ได้เจอในวัดแห่งนี้ ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาท้ายๆของการเป็นพระแล้ว วันนั้นพระสองกำลังนั่งสมาธิอยู่ ยาวถึงประมาณ 3 ทุ่ม มีพระที่นั่งสมาธิรวมตรงนั้นประมาณ 30 รูปได้ แล้วก็จะมีพระพี่เลี้ยงรูปหนึ่งหันหน้าเข้าหาพวกของพระสอง เพื่อที่จะดูแลความเรียบร้อย ตอนนั้นจู่ๆลมก็พัดแรงขึ้น แรงขึ้น จนพระสองนั้นต้องลืมตาขึ้นมาดู แล้วก็ได้เห็นพระพี่เลี้ยงเหลือบตามอง ขึ้นไปข้างบน ซึ่งมันจะอยู่หลังของพวกพระสอง แล้วท่านก็พูดขึ้นมาว่า "ไม่มีอะไรหรอก เขามาดี พวกท่านทำดีเขาก็ชอบ" 

เช้าวันต่อมาก็มานั่งคุยๆกัน พระท่านหนึ่งก็บอกขึ้นมาว่าที่พระพี่เลี้ยงต้องพูดแบบนั้นก็เนื่องจากท่านเห็นมีผู้หญิง สวมชุดสีแดง ปีนลงมาจากต้นยาง แต่ว่ามาดี น่าจะเป็นเจ้าที่เพราะต้นยางเหล่านั้นอายุเกิน 50 ปีแล้วทั้งนั้น และก็มีเป็นร้อยๆต้น และนั่นก็คือเรื่องราวลี้ลับ ที่พระสองได้ประสบพบเจอมาด้วยตัวเอง  เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...