ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“อย่าเสือก กูไม่เอาบุญใดๆทั้งนั้น กูไม่ไป กูไม่ออก!!”...บ้านขังวิญญาณ


บ้านหลังนี้มีอยู่จริง มีภาพยืนยันด้วย ผม อ.แบงค์ไปถ่ายมากับมือ ติดวิญญาณหน้าผู้หญิงคนหนึ่งด้วยครับ ขาวซีด ไร้ลูกตา ในหนังเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากครอบครัวหนึ่ง ที่ดวงซวยไปซื้อบ้านทรัพย์ธนาคารในราคาที่แสนถูก ย่านหนองแขม กทม.(แต่หลุดไปเป็นบางแคได้ไงก็ไม่ทราบ)

เหตุการณ์จริง 80 % ที่ถูกยกเอาไปสร้างเป็นหนัง ต่อไปนี้ผมจะเล่า 80 % ในส่วนเฉพาะที่เป็นความจริงนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินขึ้นลงบันไดบ้านในยามค่ำคืน เงาดำของชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่เดินไปมาในบ้านแม้เวลากลางวัน เสียงตึงตังที่เกิดขึ้นตรงกำแพงบ้าน และราวบันไดทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นสักคน แม้แต่กระจกบ้านก็เหมือนมีคนเอามือไปทุบเล่นปีงปังๆ ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น เสียงเด็กวิ่งเล่นในบ้าน เสียงหัวเราะยามค่ำคืนของหญิงสาวปริศนา อาหาร และน้ำดื่มที่เน่าเสียและบูดเร็วผิดปกติ เวลาทำบุญอุทิศไปให้ก็ได้ยินเสียงตะโกนลั่นว่า กูไม่เอา! อย่างในหนังที่เอาไปสร้าง….แอนก็คิดว่าคิดไปเองเพราะความวิตกจริต

คู่สามีภรรยา และลูกสาวคนเดียวของบ้าน ต้องพบเจอเรื่องมากมายที่เกิดขึ้น อินกับแอน และเชอร์รี่ลูกสาวยังมีชีวิตอยู่จริงในปัจจุบัน แต่ยายได้เสียชีวิตไปในบ้านหลังนี้ในระหว่างกวาดบ้าน หล่อนชี้ไปตรงห้องเก็บของหน้าบ้านก่อนสิ้นใจตายด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกกะทันหัน ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน นี่คือเรื่องจริง! แอนเล่าให้ผมฟังว่าก่อนหน้าแม่ตนเองจะเสียไม่กี่วัน เธอฝันเห็นแม่ตนเองกวาดบ้านอยู่ตรงหน้าห้องเก็บของ ก่อนจะเปิดไปเห็นผีในห้องเก็บของนั้นจนช็อก พอแอนเข้าไปจับตัวแม่ ร่างแม่ก็แตกละเอียดเป็นผง ไปกับอากาศ เธอฝันแบบนี้ติดกัน 3 คืน ก่อนที่แม่จะตาย และแม่เธอตายตรงตำแหน่งเดียวกับในความฝันไม่มีผิดเพี้ยน!! ยิ่งทำให้แอนเชื่อสนิทใจว่าบ้านหลังนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ

ผ่านมาปีกว่า ตั้งแต่ย้ายเข้าบ้านหลังนี้มา สามีภรรยาตกงานพร้อมกันในวันเดียวกันทั้งๆ ที่ทำงานคนละบริษัทเพราะถูกแรงกดดันจะหัวหน้าให้ออก และเพื่อนร่วมงานแกล้งใส่ความ อาชีพของแอนในเรื่อง คืออาชีพจริง ส่วนอินไม่ใช่เหมือนในหนัง ต่อมาได้ขายรถและเปลี่ยนเป็นมาขับแท็กซี่รับจ้างหาเงินปะทังชีพ เงินทองก็หมดไปๆ ทุกๆ เดือน วิ่งแท็กซี่ก็ไม่มีใครขึ้น ทำหน้าเหมือนเห็นอะไรบางอย่างนั่งอยู่ด้วย จะขึ้นก็ไม่ขึ้น เปลี่ยนไปขึ้นคันอื่น อยู่หลายครั้ง พอให้พระไปเจิมพระก็บอกว่าจริงๆ ไม่ใช่อยู่ในรถแต่อยู่ในบ้าน!!

แอนรู้ความจริงจากเพื่อนบ้านว่าบ้านเธอเป็นครอบครัวที่ 5 แล้วที่มาอยู่ แต่ก่อนหน้าทุกครอบครัวที่อยู่มีอันเป็นไปหมด ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง แอนรู้จากเพื่อนบ้านคนนั้นว่าครอบครัวแรกเมื่อเกือบ 20 ปีก่อนได้ฆ่าเมียตนเองเพราะความเมามาย จากการที่โกรธแค้นที่เมียไปมีชู้ และทิ้งลูกชายไว้ให้เขาเลี้ยง เขาโมโหเลยทำลายข้าวของทุกอย่างในบ้านกระจัดกระจาย ไม่เว้นกระทั่งศาลเจ้าที่ไม้ก็ยังพังทิ้ง ทั้งกระทืบ และบ้วนเหล้าใส่ (ในหนังทำแค่ใช้ไม้ตีพังเฉยๆ) ก่อนจะไปฆ่าลูกชาย โดยการกดอ่างน้ำในห้องน้ำ ก่อนจะแทงร่างลูกชายจนพรุน เมื่อเมียกลับมาเพื่อตามลูกชาย แต่พบศพลูกลอยอืดในห้องน้ำ เขาจึงฆ่าปาดคอเมียตาย และเจาะลูกตาสองข้าง ก่อนจะฆ่าตัวตายตาม ตรงราวบันไดจนศพอืดบวมส่งกลิ่นเหม็น ทำให้เจ้าหน้ามาตรวจสอบพบ

เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่าแอบดูเหตุการณ์อยู่เห็นเจ้าของบ้านเมาอาละวาดทำลายศาล ผ่านมาไม่กี่วันก็ไม่ยินเสียงทะเลาะกัน และกรีดร้องของผู้หญิงภรรยาเจ้าของบ้าน ไม่คิดเลยว่าจะฆ่ายกครัวแบบนี้ เมื่อแอนรู้ความจริงจึงเครียดมาก และไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร จึงมาปรึกษาหาทางออกจากผม และผมก็แนะนำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการให้ย้ายออกจากบ้านเร็วๆ เพราะอยู่ต่อไป เขาก็ไม่ต้องการบุญใดๆ ทั้งสิ้น เขาต้องการบ้านของเขาคืน ผมสื่อจิตได้ว่าพวกเขาอาฆาตมาก และดวงวิญญาณมากมายยังคงติดอยู่ที่บ้านหลังนั้น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่ 2-4 ที่ต่างก็ประสบอุบัติเหตุในบ้านตาย และบาดเจ็บแปลกๆ กันถ้วนหน้า ไม่ป่วยตายก็ฆ่ากันตาย หรือไม่ก็ตกบันได ลื่นในห้องน้ำจนแท้งลูก อย่างที่ในหนังให้เพื่อนบ้านเล่าให้แอนฟัง โดยเฉพาะครอบครัวที่ 4 ก่อนคุณอินแอนจะย้ายมาอยู่ เป็นร่างทรงทั้งผัวทั้งเมีย มีการทำคุณไสย เล่นมนต์ดำเกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้ เลี้ยงกุมารเต็มบ้าน และกักขังวิญญาณไว้ด้วยวิชามืดไม่ให้ไปไหน แต่อยู่ได้ไม่ถึง 3 ปีดี ผัวร่างทรงก็ฆ่าเมียตนเองตายคาบ้านด้วยมีด!! แต่ในหนังไม่ได้แสดงรายละเอียดตรงบ้านร่างทรงมากนัก เนื่องด้วยเวลา

เรื่องดูเหมือนเกินจริง แต่คือความจริงจากปากเจ้าของบ้านเอง! คาแร็กเตอร์ที่ไม่เชื่อเรื่องผีใดๆ ทั้งสิ้นของอิน ที่แสดงโดยกอล์ฟ อัครานั้น คือเรื่องจริง อิน-แอนทะเลาะกันเพราะเรื่องเพี้ยนๆ ที่เกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้บ่อยครั้ง เรื่องจริงที่หนังเอาสร้างได้เกือบครบถ้วน นี่ยังไม่รวมเรื่องจริงที่เชอร์รี่ลูกสาวคนเดียวของบ้านชอบเดินละเมอไปเข้าห้องน้ำ และลงไปเปิดน้ำในอ่างนอนเล่นตอนกลางคืนอีกด้วย พอตื่นขึ้นมาก็บอกว่ามีเด็กผู้ชายพามานอนเล่นในน้ำ!! เจ้าของบ้านตัวจริงยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดคือเรื่องจริง และผมก็เห็นว่าบ้านหลังนี้มีวิญญาณร้ายจริงๆ ผู้หญิงที่ถูกฆ่าตายเขาบอกผมว่า เขาชื่อ “จันทร์” เขาทรมานมากเพราะถูกวิญญาณสามีขังไว้ไม่ให้ไปผุดไปเกิด และหาทางออกไปไหนไม่ได้เพราะไร้ลูกตา และวิญญาณร้ายหลายดวงวิญญาณเขาก็ด่าไล่ผมด้วยคำหยาบๆ คายๆ ไม่ให้เข้าไปช่วย “อย่าเส…ือ ก กูไม่เอาบุญใดๆ ทั้งนั้น กูไม่ไป กูไม่ออก!!” และหลังจากที่เข้าไปช่วยทำให้ผมป่วยหนักมากตั้งแต่เข้าไปช่วย ยังมีใบรับรองแพทย์อยู่เลย

แต่ปัจจุบันบ้านหลังนี้ยังติดประกาศขายอยู่มาหลายปีแล้ว ยังขายไม่ออก ทางอินกับแอนจึงไม่อยากเปิดเผยตัวตนจริงออกสื่อใด เพราะเกรงว่าบ้านจะขายไม่ได้!! สำหรับผมในฐานะที่เป็นเจ้าของเรื่องราว และเป็นอาจารย์ที่แอนมาหาในเรื่อง บอกได้คำเดียวว่าประสบการณ์จริงหลอนมาก ยิ่งมาสร้างเป็นหนังแบบนี้ยิ่งสะดุ้ง ผวา และกระตุกขวัญสั่นประสาทดีไม่น้อย ชอบตรงที่เก็บรายละเอียดจากเหตุการณ์จริงไปเล่าในหนังได้ดีมากๆ มีเพิ่มเติมให้เรื่องสนุกในแบบฉบับของภาพยนตร์ ถือว่าให้ 9/10 คะแนนครับ สำหรับค่ายน้องใหม่ทำได้ดีขนาดนี้ เรื่อง CG ในหนังก็พอดูได้ครับ และเนียนมากๆ ตรงแมลงสาป 2 ตัวในบ้านที่ตอนแรกนึกว่าตัวจริง อยากให้มองตัวเนื้อหา และความจริงที่ผู้กำกับหยิบยกมาสร้างมากกว่าครับ

ตัวละครที่เล่นเป็นแอนนั้น ถ่ายทอดความรู้สึกเครียดอับจนหนทางที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นที่บ้านหลังนั้น ได้อย่างดีทีเดียว เธอหวังพึ่งผมว่าจะช่วยเธอได้ เพราะหันหน้าไปหาหมอพระหมอผีหลายคน ทุกคนล้วนส่ายหน้าหมดว่าเกินเยียวยา บ้านเฮี้ยนเกินไป ให้ย้ายออก อาจารย์ทุกท่านที่ไปช่วยต่างพากันป่วยหนักทุกคนโดยไม่มีสาเหตุ ส่วนผมถูกตามมารังควาญถึงที่บ้านเลย พี่เดย์ เลขาของผม ที่ในหนังรับบทโดย “จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม” เลขา อ. แมน ศุภกิจ (ซึ่งหมายถึงผม) พี่เดย์เลขาผมยังโดนขวดน้ำอัดลมพุ่งมาจากตู้เย็นตกแตกกระจาย บาดฝ่าเท้าสองข้างจนเลือดอาบ!! ไม่กี่วันหลังจาก คุณแอนให้ผมไปช่วยสื่อเจ้าที่บ้านหลังนั้น!! ทุกคนเจอดีหมด ไม่เว้นผม

คนไทยต้องสนับสนุนหนังไทยครับ ไปดูกันมากๆ นะครับ หวังว่าได้รู้เรื่องจริงที่เกิดขึ้นก่อนไปดูหนัง หรือดูมาแล้วก็น่าจะทำให้น่ากลัวขึ้นนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...