ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผีขึ้นแท็กซี่


เมื่อเดือนที่แล้วผมพาน้องแก้มแฟนของผมไปดูหนังรอบดึกแถวอนุสาวรีย์ชัยฯ กว่าหนังจะเลิกก็ตีหนึ่งกว่าแล้วล่ะครับ เราต้องออกมาเรียกแท็กซี่เพื่อไปส่งแก้มถึงบ้านที่รามอินทรา อากาศคืนนั้นเย็นสบายเพราะฝนเพิ่งหยุดตก มันชุ่มฉ่ำและโรแมนติกน่าดู

เมื่อผมออกมาริมถนนก็มองเห็นแท็กซี่คันหนึ่งสีชมพูจอดอยู่ริมขอบทางเพื่อรอรับผู้โดยสาร ผมตรงดิ่งไปที่รถคันนั้นทันที แต่น้องแก้มดึงมือผมไว้ก่อน “นั่น! มีคนขึ้นไปแล้ว รอเรียกคันอื่นเถอะ” เธอพูดเบาๆ น้ำเสียงปกติ แต่ผมซิต้องแปลกใจมากเชียว เพราะภายใต้แสงไฟสว่างจ้า ผมไม่เห็นมีใครขึ้นแท็กซี่คันนั้นเลยสักคน “ตาฝาดรึเปล่าจ๊ะแก้ม? พี่ไม่เห็นใครเลยนะ” ผมพูดขำๆ แต่เธอไม่ขำด้วย มองหน้าผมงงๆ แล้วบอกว่าจริงๆ นะ เมื่อกี้มีผู้ชายผู้หญิงคู่หนึ่งเดินจูงมือกันอยู่ ไม่ห่างจากเราเท่าไหร่ แก้มยังเห็นว่าผู้ชายนุ่งกางเกงยีนส์ขาลีบ สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน ส่วนผู้หญิงนุ่งขาสั้น เสื้อแขนพองสีแดงลายสกอต!
เห็นละเอียดขนาดนั้นเชียวล่ะครับ!

แก้มเล่าว่าคนทั้งคู่เปิดประตูรถแท็กซี่ด้านหลังขึ้นไปนั่งแล้วปิดประตู แต่เธอเอะใจว่าทำไมแท็กซี่ยังจอดนิ่งอยู่ ไม่ออกรถไปซะที มิหนำซ้ำตัวผมเองก็ทำท่าตรงรี่จะไปขึ้นรถคันนั้น น้องแก้มทำตาปริบๆ อย่างงงงันและบอกผมว่า เดินไปดูกันดีกว่า ว่ามีคนนั่งในแท็กซี่คันนั้นหรือไม่? มือเธอเย็นเฉียบขณะที่ผมจูงเธอไปชะโงกดู และเห็นชัดๆ ว่าเบาะหลังว่างเปล่า…โชเฟอร์ขยับตัวพร้อมที่จะบริการเรา น้องแก้มครางแล้วบอกว่าเธอกลัวมาก ไม่กล้าขึ้นรถคันนี้ แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ ครับ แถวนี้เหลือแท็กซี่อยู่คันเดียวและมันก็ดึกมากแล้วด้วย ผมเปิดประตูก้าวเข้าไปนั่ง น้องแก้มทำหน้ามุ่ยเหมือนอยากร้องไห้ ก่อนจะค่อยๆ หย่อนตัวตามผมเข้ามาอย่างระแวง ผมบอกให้โชเฟอร์ใช้ทางด่วนเลยจะได้ถึงบ้านน้องแก้มเร็วๆ
ในรถคันนั้นนี้ทีแรกก็มีกลิ่นใบเตยหอมๆ ผมเห็นใบเตยมัดใหญ่กองสุมอยู่ด้านหลังของเบาะ แต่พอนั่งไปเรื่อยๆ ผมเกิดได้กลิ่นคล้ายโรงพยาบาล มันแปลกมากครับ น้องแก้มเองก็คงได้กลิ่นเหมือนกัน…กระตุกมือผมแล้วเบียดตัวเข้ามา ท่าทางหวาดกลัวอะไรบางอย่าง

ราวครึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านน้องแก้มโดยปลอดภัย ผมส่งเธอเข้าบ้านแล้วใช้บริการแท็กซี่คันเดิมให้ไปส่งที่ศรีย่าน บ้านผมอยู่แถวนั้นครับ ขณะที่นั่งรถมาตามลำพัง ผมก็ได้ทีถามโชเฟอร์ว่ารถคันนี้มีอะไรรึเปล่า? โชเฟอร์พูดว่า “ไม่มีอะไรหรอกพี่ แต่พี่ถามขึ้นมาก็ดีแล้ว ผมรู้สึกมีอะไรแปลกๆ” มันแปลกยังไงหรือครับ?
โชเฟอร์เล่าว่า ตลอดทางที่วิ่งมา เขามองกระจกหลังและเห็นเป็นคนสี่คนนั่งอยู่ คือมีผมกับน้องแก้มซึ่งนั่งชิดกันแถวกลางเบาะ แต่มีเงาของผู้หญิงคนหนึ่งนั่งริมหน้าต่างด้านน้องแก้ม และผู้ชายอีกคนหนึ่งนั่งริมหน้าต่างด้านผม! จะว่าเป็นเพราะตาฝาดหรือเงาหลอนก็ไม่ใช่ เดี๋ยวก็เห็นชัดเจน เดี๋ยวก็เลือนหายไป

เอาล่ะซิ! ผมชักหนาวๆ ร้อนๆ เลยพูดกับโชเฟอร์ตามตรงว่า ก่อนที่ผมจะเปิดประตูมานั่งในรถเขาน่ะ แฟนผมเห็นชายหญิงคู่หนึ่งเข้ามานั่งก่อน! “ผมบอกจริงๆ นะพี่ ว่าก่อนพี่จะมาถึงรถผมน่ะ ผมรู้สึกว่ารถผมมันยวบเหมือนมีใครขึ้นมานั่งจริงๆ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรไง…โอย! ผมจะทำไงเนี่ย?” ขากลับนี่เราไม่ได้ขึ้นทางด่วนนะครับ แต่มาตามทางปกติ และเรื่องที่เราสอบถามกันไปมานี่น่ะ ทำเอาเราหนาวๆ ร้อนๆ ทั้งคู่ ทันใดนั้น โชเฟอร์ร้องออกมาเบาๆ “โอ๊ย! พี่…ผมไม่ไหวแล้ว” เขาเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันข้างทางแล้วรีบลงจากรถทันที ผมก็ตาเหลือกซิครับ รีบตะกายลงจากรถตามเขาแล้วถามว่าอะไรเหรอ? เขาเห็นอะไร?
“ผมเห็นอีกแล้ว! ผู้ชายผู้หญิงคู่นั้น เขานั่งอยู่ข้างๆ พี่! ถ้าไม่ใช่ผีแล้วจะเป็นอะไรล่ะ?”

เขายืนยันว่าในรถเขาไม่เคยมีประวัติภูตผีปีศาจใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่อยู่ในรถต้องเป็นผีจากอนุสาวรีย์แน่ๆ เป็นใครมาจากไหน? ตายยังไงก็สุดรู้! ผมเดาว่าคงเป็นหนุ่มสาวจากปรโลกที่ชวนกันมาเที่ยว…โธ่! แล้วมานั่งแท็กซี่นี่ทำไม? จะไปไหนกันหรือครับ? โชเฟอร์มือไม้อ่อน บอกว่าขับไม่ไหวแน่ๆ ต้องจอดอยู่ที่นี่จนกว่าจะมีผู้โดยสารเรียก หรือจนกว่าจะเช้า ส่วนผมต้องเรียกแท็กซี่คันอื่นกลับบ้านล่ะครับ!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...