ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บ้านตัวอย่างหลอน!! "มานั่งร้องไห้ทำไม"


เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณเลิฟครับ คุณเลิฟเล่าว่า.. ตอนผมเรียนมหาวิทยาลัย แม่ผมได้ไปซื้อบ้านที่แถวรังสิต ไว้ให้ผมอยู่กันกับพี่สาว ทีนี้บ้านหลังที่ไปจองมันยังสร้างไม่เสร็จดี ทางโครงการเลยให้ไปอยู่ที่บ้านตัวอย่างก่อนเป็นการชั่วคราว ผมกับพี่สาวก็ไปอยู่ แรกๆ ก็ปกติดี แต่พอนานวันเข้า ผมสังเกตสักตอน 5 ทุ่ม-เที่ยงคืน หมาในหมู่บ้านมันจะมารวมตัวกันที่หน้าบ้านแล้วพากันหอน ทีแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรนะ อยู่ๆ ไป เอ๊ะ! มันชักจะมาถี่ คือมาทุกวันเลยทีนี้ พี่สาวผมก็ดันมาเล่าอีกว่า เคยนั่งอ่านหนังสืออยู่ชั้นล่าง แล้วเหมือนมีคนมาแอบมองที่นอกหน้าต่าง แต่มองไปก็ไม่เห็นอะไร..

อยู่มาวันหนึ่ง ผมเลิกเรียนค่ำ ประมาณ 2 ทุ่ม กลับมาบ้านก็ไม่เห็นพี่สาว ไฟในบ้านมืดหมดทั้งบ้าน ผมก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อเปิดไฟ แต่ไฟก็ดันไม่ติด ก็เลยต้องเดินขึ้นชั้น 2 เพื่อไปสับคัทเอ้าท์ เพราะบ้านตัวอย่างหลังนี้คัทเอ้าท์มันชอบสับลงมาเอง พอผมเดินจะขึ้นชั้น 2 ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้สะอื้นเบาๆ ผมนึกว่าพี่สาวผมทะเลาะกับแฟนเค้า แล้วคงนั่งร้องไห้อยู่ที่บันได ก็ไม่ได้คิดอะไร เดินขึ้นไปจนถึงแผงคัทเอ้าท์ ในความมืด ผมเห็นเป็นเงาคนนั่งกอดเข่าอยู่ใต้คัทเอ้าท์ กำลังร้องไห้ ‘ฮือๆๆ’ รูปร่างประมาณพี่สาวผมเลย ตัวเล็กๆ ผมก็ถามไปว่า ‘เป็นอะไรพี่ ร้องไห้ทำไม? แล้วทำไมมานั่งมืดๆ ตรงนี้?’ แล้วผมก็เอื้อมมือไปสับคัทเอ้าท์ ไฟทั้งบ้านสว่าง พรึบ! แต่เงาที่ผมเห็นกลับหายไปต่อหน้าต่อตาเลยครับ! เคยรู้สึกไหม แบบเวลาตกใจมากๆ ขนมันจะลุกซู่ มันจะหนาวไปทั้งตัว เหมือนเครื่องในในร่างกายมันหล่นลงกับพื้น ขานี่แข็งก้าวไม่ออก เกือบจะร้องไห้แล้ว ผมรวบรวมพลังทั้งหมด ค่อยๆ ยกขาก้าวลงบันไดทีละขั้นๆ จนเดินไม่ไหว ต้องนั่งแล้วเอาก้นถัดๆ ลงบันไดทีละขั้นมา พอลงมาถึงชั้นล่างได้ ผมโกยแนบเลย แบบไม่อยู่แล้ว

ผมออกมาหน้าหมู่บ้าน ไปที่ป้ายรถเมล์นั่งอยู่อย่างนั้น อาศัยคนเยอะๆ จะได้อุ่นใจ นานเท่าไรไม่รู้ จนสติเริ่มกลับมาทีละนิดๆ มองดูนาฬิกาเกือบ 5 ทุ่ม คิดว่าพี่สาวผมคงกลับมาแล้ว เลยเดินกลับไปที่บ้าน โล่งใจครับ พี่สาวกลับมาแล้วจริงๆ มากับแฟนเค้า พอผมเข้าบ้านก็เล่าเรื่องที่เจอให้พี่สาวฟัง พี่สาวบอกว่า เค้าไปกินข้าวกับแฟน ไม่ได้กลับเข้ามาบ้านเลย แล้วที่ผมเห็นมันคืออะไร? ..หลังจากวันนั้น เวลาผมเลิกเรียน ก็จะนัดกับพี่สาวที่ห้าง ให้มาเจอกันก่อนแล้วค่อยกลับพร้อมกัน ผมไม่อยู่บ้านคนเดียวอีกเด็ดขาด แล้วหลังจากนั้น ก็ยังมีเหตุการณ์แปลกๆ อีกนะ อย่างเวลานอนอยู่ในห้อง บางทีจะได้ยินเสียงคนบิดลูกบิดประตูจากข้างนอก ‘ก๊อกแก๊กๆๆ’ ผมนึกว่าพี่สาว พอเปิดไปดูก็ไม่เห็นใคร ช่วงหลังๆ ผมย้ายมานอนห้องพี่สาวเลย ไม่กล้าอยู่ห้องคนเดียวแล้ว

จนบ้านที่จองไว้ทำเสร็จ พวกเราก็ย้ายออกจากบ้านตัวอย่างหลังนั้น และด้วยความอยากรู้ ผมก็พยายามสืบๆ เรื่องราว ถามใครก็ไม่ค่อยจะมีคนบอก จนมาเจอป้าที่ขายลาบในหมู่บ้าน ผมจึงตีสนิทกับแก แล้วลองถาม ป้าแกเล่าว่า ‘เมื่อก่อนที่หมู่บ้านสร้างใหม่ๆ ยังมีคนเข้ามาอยู่กันไม่มาก แล้วบ้านตัวอย่างที่พวกเธออยู่นั่น เมื่อก่อนพนักงานของโครงการเข้าไปอยู่ เป็นผัวเมียกัน แต่สองคนนี้ชอบทะเลาะกันประจำ ป้ามาอยู่รุ่นแรกๆ เห็นตลอด ตีกัน ผู้หญิงมานั่งร้องไห้หน้าบ้านประจำ จนวันหนึ่ง บ้านหลังนี้ก็ร้าง ไม่มีใครมาอยู่อีก เห็นเจ้าของโครงการเอากุญแจมาคล้องรั้วไว้เลย นานๆ จะให้คนมาทำความสะอาดที ส่วนป้าก็ไม่รู้ว่าสองผัวเมียนั้นเขาไปไหน ถามพวกคนงาน พนักงาน เค้าก็บอกว่าถูกย้ายไปที่อื่น ป้าก็รู้เท่านี้ล่ะ..’ ป้าเล่าให้ผมฟังเท่านี้ แต่ผมว่า เรื่องมันคงไม่จบง่ายๆ ตามที่ป้าเล่าหรอก ป้าอาจจะรู้อะไรมากกว่านี้แต่ไม่กล้าเล่า เพราะกลัวเจ้าของโครงการจะมาว่าได้ ถ้าเรื่องแพร่งพลายออกไป

แต่ผมก็ยังตามสืบประวัติไปเรื่อยๆ นะ ถามคนที่อยู่มานานๆ จนได้ความว่า ‘มีอยู่คืนหนึ่ง ผัวเมียคู่นี้ทะเลาะกันหนักมาก แล้วฝ่ายผัวก็ขับรถออกจากบ้านไปอย่างไว ทิ้งเมียอยู่บ้านคนเดียว ฝ่ายเมียคงคิดสั้นกินยาฆ่าแมลงหวังจะตายให้ได้ แต่พอยาเริ่มออกฤทธิ์ก็เกิดกลัวขึ้นมา เลยคลานออกมาจากบ้านมาขอความช่วยเหลือ แล้วสลบอยู่หน้าประตูรั้ว มีคนผ่านไปมาเห็นก็ช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันแล้ว..’ คนที่อยู่มานาน เล่าให้ผมฟังอย่างนี้.. ผมเริ่มประติดประต่อเรื่องราว แล้วสรุปด้วยตัวเองว่า ผู้หญิงคนนั้นคงขาดใจตายที่หน้าบ้านนั่นแหละ แล้ววิญญาณยังคงวนเวียนอยู่ในบ้านไม่ไปไหน เพราะหลังจากเกิดเรื่อง ทางเจ้าของโครงการก็ไม่ได้ทำพิธีอะไร ได้แต่ปิดตายบ้านหลังนี้ไว้ แล้วด้วยความมักง่ายอยากขายบ้านที่ยังไม่เสร็จ กลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจไปซื้อที่อื่น ก็เลยให้มาอยู่บ้านตัวอย่างหลังนี้ไปก่อน ผมเกือบช็อคตายเป็นผีเฝ้าบ้านไปอีกคนแล้วไง..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...