ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"มันคลานเข้ามาและครางข้างหู" กว่าจะสิ้นเดือน


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในย่านสุขาภิบาลหนึ่ง เมื่อประมาณเจ็ดปีที่ผ่านมา หลังจากที่คุณก้องเรียนจบ ก็ได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพ แต่ยังหาห้องพักไม่ได้ จึงได้ไปขออาศัยอพาร์ทเม้นท์ที่พี่สาวเช่าอยู่กับเพื่อนก่อน

ลักษณะห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เตียงจะตั้งอยู่กลางห้อง ประตูทางเข้าห้องจะอยู่ทางปลายเตียง เยื้องๆไปทานซ้าย ส่วนประตูหลังห้องจะอยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าพอดี ตอนที่มาอยู่ใหม่ๆ คุณก้องก็ได้ถามพี่สาวว่า อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ มีอะไรแปลกๆหรือเปล่า พี่สาวก็เล่าให้ฟังว่า ตอนที่พี่สาวกับเพื่อนได้กลับบ้าน แฟนของพี่สาวได้มาขอนอนในห้อง ในขณะที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ก็เห็นคนแก่ใส่โจงกระเบนสีแดง วิ่งจากประตูหลังห้อง ทะลุออกไปทางประตูหน้าห้อง แฟนจึงได้ไปเล่าให้พี่สาวฟัง แต่พี่สาวไม่ค่อยจะเชื่อ 

จนผ่านมาประมาณสองเดือน เพื่อนของพี่สาวไปเรียนที่มหาลัย แต่พี่สาวไม่มีเรียน จึงได้นอนเล่นอยู่ที่ห้องคนเดียว พี่สาวเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ วิ่งรอบห้องไปมา แล้วมาจับมือพี่สาวเล่น พี่สาวตกใจมาก ลุกพรวดขึ้นมาจากเตียง เด็กผู้หญิงที่ตอนแรกวิ่งอยู่รอบเตียง ปรากฏว่ากลายเป็นเงาดำตัวใหญ่ๆ พุ่งขึ้นเตียงมาคร่อมตัวพี่สาว จนพี่สาวขยับตัวไม่ได้ แล้วก็รู้สึกหนักขึ้นเรื่อยๆที่ท้อง พี่สาวพยายามดิ้นสุดแรง แต่ก็ไม่เป็นผล

ก็ได้แต่สวดมนต์อยู่ในใจ จนสักพักก็หลุดออกมาได้ คุณก้องฟังที่พี่สาวเล่า ก็ไม่ค่อยจะเชื่อ จนคุณก้องได้อาศัยอยู่ประมาณสองอาทิตย์ ปกติคุณก้องจะนอนตอนกลางวัน และไปทำงานตอนกลางคืน เพราะคุณก้องทำงานเป็นเด็กเสริฟ เวลาที่คุณก้องนอน พี่สาวกับเพื่อนจะไปเรียนที่มหาลัย ส่วนเวลาที่พี่สาวกลับมานอน คุณก้องจะไปทำงาน วันนั้นคุณก้องนอนอยู่ข้างๆเตียง เวลาประมาณบ่ายสองโมง ก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา คุณก้องก็คิดว่าพี่สาวกับเพื่อนกลับมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลืมตาดู เพราะง่วงนอนมาก

สักพักก็ได้ยินเสียงเดินเข้ามาหา แล้วคุณก้องก็รู้สึกว่าเตียงข้างๆยุบลง เหมือนมีคนนั่ง คุณก้องจึงจะลืมตาขึ้นมาดู แต่กลับลืมตาขึ้นมาไม่ได้ และขยับตัวไม่ได้ด้วย คุณก้องงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วสักพัก คุณก้องรู้สึกว่าเค้าขึ้นมานั่งทับ ตอนนั้นคุณก้องรู้แล้วว่า นั่นต้องไม่ใช่พี่สาวแน่ๆ คุณก้องตกใจมาก ขนลุกทั้งตัว พยายามดิ้นสุดชีวิต แต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้ จนผ่านมาประมาณสิบนาที คุณก้องก็ดีดตัวลุกขึ้นมาได้ แล้วพยายามมองไปรอบห้อง แต่ก็ไม่เจออะไร จึงได้ไปเล่าให้พี่สาวฟัง พี่สาวก็พูดทำนองว่า นอนทับเส้นหรือเปล่า จนเวลาผ่านไปประมาณเดือนกว่าๆ

คืนนั้น คุณก้องกลับมาถึงห้องเวลาประมาณตีสาม พี่สาวและเพื่อนหลับอยู่บนเตียง คุณก้องจึงอาบน้ำ แล้วขึ้นไปนอนบนเตียง ภายในห้องยังพอมีแสงสว่างจากข้างนอกสาดเข้ามาทางหน้าต่าง คุณก้องเหลือบไปเห็นผู้ชาย นั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้อง คุณก้องไม่แน่ใจ เพราะไฟในห้องมันสลัวๆ จึงคิดจะลุกขึ้นไปดู แต่คุณก้องรู้สึกขยับตัวไม่ได้ และก็เห็นผู้ชายคนนั้น คลานเข้ามาที่เตียงเรื่อยๆ คุณก้องตกใจสุดขีด พยายามดิ้น แต่ก็ขยับตัวไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นคลานเอาปากมาใกล้ๆหูของคุณก้อง แล้วร้องครวญครางออกมา ฟังไม่เป็นภาษา เหมือนเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด คุณก้องรู้สึกกลัวมากที่สุด เท่าที่ชีวิตนี้เคยกลัวมา

จึงพยายามใช้เท้าสะกิดพี่สาว แต่พี่สาวก็ไม่ยอมตื่น คุณก้องนอนทรมานอยู่แบบนั้นไปอีกประมาณห้านาที แล้วก็ขยับตัวลุกขึ้นมาได้ ผู้ชายคนนั้นก็หายไป เช้าวันต่อมา เพื่อนพี่สาวมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนตอนประมาณตีสามครึ่ง เกือบๆตีสี่ เพื่อนของพี่สาวรู้สึกตัวขึ้นมา ได้ยินเสียงคนอยู่ในห้องน้ำ เหมือนกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ แล้วเสียงก็เงียบไป สักพักก็รู้สึกเหมือนมีมือเปียกๆเย็นๆ มาจับที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง แล้วพยายามลากลงมา เพื่อนพี่สาวร้องกรี้ดออกมาลั่นห้อง แต่ก็เห็นคนอื่นๆยังนอนอยู่ปกติ จึงพยายามสบัดขาจนมือเปียกๆนั้นหลุด แล้วก็ขึ้นมานอนคลุมโปงจนถึงเช้า

คุณก้องพยายามไปคุยกับเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรเลย จึงลองซื้อข้าวกับขนมมาไหว้ที่ห้องทุกวัน แต่ก็ยิ่งเจอหนักขึ้นกว่าเดิม จึงคุยกันว่า จะอยู่ต่อให้ครบหกเดือน รอเอาเงินประกัน แล้วจะย้ายออกทันที และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...